การพัฒนาศักยภาพอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษา : กรณีศึกษาโครงการสอนนอกกรอบ : ครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายใน สำหรับอาจารย์ในกลุ่มวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สถาบันพระบรมราชชนก (The Development of Capacities of Teachers in Transformative Learning Management by Contemplative Education Approach: The Case Studies of the “Teach out of the Box: Transformative Teachers from Within” Project for Teachers in the Boromarajonani Colleges of Nursing, Praboromarajchanok Institute)

Hand

Experiences Practical

ศักดิ์ชัย อนันต์ตรีชัย และ อริสา สุมามาลย์

บทคัดย่อ

งานวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนากระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษา 2) เพื่อศึกษาผลของการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงของอาจารย์ ทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงภายในตนเอง และการนำไปพัฒนาการเรียนการสอน โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) ขั้นวางแผน (Plan) 2) ขั้นปฏิบัติและสังเกตการณ์ (Act & Observe) และ 3) ขั้นสะท้อนผล (Reflect) กลุ่มเป้าหมาย คือ อาจารย์ที่สอนในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี 4 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีขอนแก่น วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเพชรบุรี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง ใช้วิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 24 คน ซึ่งเป็นครูที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการสอนนอกกรอบ : ครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายใน สำหรับอาจารย์ในกลุ่มวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สถาบันพระบรมราชชนก และยินดีให้ข้อมูลแก่คณะผู้วิจัย รวบรวมข้อมูลระหว่างมีนาคม พ.ศ.2564 ถึงเมษายน พ.ศ.2565 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินตนเอง แบบบันทึกภาคสนาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบบันทึกการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน และประเด็นในการสัมภาษณ์กลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา และการวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ที่ 1 เพื่อพัฒนากระบวนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษา พบว่า กระบวนการพัฒนาศักยภาพอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษามีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.วัตถุประสงค์ 2.ระยะเวลา 3. สื่อและอุปกรณ์ที่ใช้ 4. ขั้นตอนการจัดกิจกรรม 5. การประเมินผล โดยกระบวนการพัฒนาศักยภาพอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษาแบ่งเป็นการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในวิทยาลัยพยาบาลแต่ละแห่งเป็นจำนวน 4 ครั้ง ได้แก่ 1) การตระหนักรู้ในตนเองและผู้อื่น 2) การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ 3) สอนนอกกรอบ 4) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงตนเอง รวมระยะเวลา 9 วัน หรือ 54 ชั่วโมง ต่อวิทยาลัย หรือรวมระยะเวลาในการจัดกระบวนการในวิทยาลัยทั้ง 4 แห่งเป็น 216 ชั่วโมง แต่ละการอบรมจัดห่างกัน 1-2 เดือนตามความสะดวกของวิทยาลัย

ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ที่ 2 เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงของอาจารย์ ทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงภายในตนเอง และการนำไปพัฒนาการเรียนการสอน พบว่า จาก แบบประเมินตนเอง ตอบโดยอาจารย์จำนวน 41 คน (ซึ่งได้เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการในโครงการอย่างน้อย 3 ใน 4 ครั้ง) อาจารย์ประเมินว่าตนเองมีการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการอยู่ในระดับมาก (x̄=4.38, S.D.=0.22) โดยเฉพาะข้อที่ได้คะแนนในระดับมากที่สุดมี 4 ข้อ ได้แก่ ท่านสอนให้นักศึกษามีความใส่ใจและรับฟังผู้อื่น (เช่น เพื่อน ครอบครัว ผู้รับบริการ ฯลฯ) (x̄=4.64, S.D.=0.49) ท่านสอนให้นักศึกษาเข้าใจมิติจิตใจในการพยาบาลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (x̄=4.55, S.D.=0.57) ท่านสามารถเติมพลังด้านบวกให้ตนเอง เมื่อต้องการกำลังใจได้ (x̄=4.55, S.D.=0.62) และท่านสามารถเรียนรู้ความงามในชีวิตจากธรรมชาติได้ (x̄=4.52, S.D.=0.81) ซึ่งล้วนเป็นประเด็นสำคัญของการดำเนินโครงการ อีกทั้ง ยังสอดคล้องกับผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ที่สะท้อนว่า ด้านการเปลี่ยนแปลงภายในตนเองของอาจารย์ มี 4 ด้าน ได้แก่ 1) เปิดมุมมองและวิธีใหม่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ 2) เท่าทันตนเองมากขึ้นทั้งในระดับสภาวะอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมการแสดงออก 3) ผ่อนคลายความเครียดและฟื้นพลังให้ตนเองได้ 4) ขยายพื้นที่ของใจด้วยการรับฟังผู้อื่น การเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ด้านนี้ส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยมีสติเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเบาสบาย ทั้งภายในตัวเองและในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน นักศึกษา) เป็นผลสะท้อนกลับมาให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกชัดเจนและมั่นใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองต่อไป ด้านการพัฒนาการเรียนการสอน พบว่ามี 3 ระดับ ได้แก่ 1) นำกิจกรรมจิตตปัญญาศึกษาไปใช้เป็นบางกิจกรรม 2) นำไปใช้ในการเตรียมตัวนักศึกษาก่อนและระหว่างการฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วย 3) นำไปบูรณาการกับเนื้อหาในรายวิชาทำให้เกิดรูปแบบการสอนใหม่ ผลลัพธ์คือ อาจารย์ยืดหยุ่นและเปิดกว้างมากขึ้น คาดหวังน้อยลง เข้าใจความรู้สึกและปัญหาของนักศึกษามากขึ้น นักศึกษาเครียดน้อยลงและเปิดใจพร้อมเรียนรู้อย่างมีความสุขมากขึ้น รวมถึงนักศึกษาเข้าใจการดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทั้งโดยการเป็นแบบอย่างของอาจารย์เองและการสอนที่ลงลึกถึงหัวใจของผู้เรียน 

ปีที่ตีพิมพ์: 2565

แหล่งข้อมูล: ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

ฉบับเต็ม: การพัฒนาศักยภาพอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตตปัญญาศึกษา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Articles

สมสิทธิ์ อัสดรนิธี และ คณะ

การบ่มเพาะผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ของชุมชนแอโก๋ – แสนคำลือ ด้วยกระบวนการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงแนวจิตตปัญญาศึกษา (The Cultivation of Change Agents amongst the Youth in Aeko – Saenkumlue Village, using the Contemplation-oriented Transformative Facilitation)

Hand

Experiences

Articles

ชลลดา ทองทวี และ คณะ

โครงการวิจัยและจัดการความรู้จิตตปัญญาศึกษา

Head

Concept/Theory

Articles

ชัชวาลย์ ศิลปกิจ และ คณะ

การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาด้วยกระบวนการเรียนรู้แนวจิตตปัญญา (Capacity Building of Educators: Contemplative Learning Approaches)

Head

Compassion Concept/Theory Experiences Feeling&Emotional Relationship

แชร์

แชร์ผ่านช่องทาง

หรือคัดลอก URL